Travel Abroad

เปิดทุกมุมของ “ทัชมาฮาล” ตำนานบทใหม่ของความรัก

หลังจาก EP.ที่แล้วเราได้พาทุกคนไปทำความรู้จักกับเมืองชัยปุระไปแล้ว ได้เวลาออกเดินทางต่อมายังเมืองอัครา เป็นอีกเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่ตั้งของทัชมาฮาล 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกนั่นเอง

มาทำความรู้จักกับอัครากัน!

“อัครา”(Agra) เมืองริมแม่น้ำยมุนาในรัฐอุตตรประเทศ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย เป็นอดีตเมืองหลวงในสมัย “ฮินดูสถาน” ความพิเศษของเมืองนี้คือเค้ามีโบราณสถานระดับมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ UNESCO ถึง 3 แห่ง ทัชมาฮาล (Taj Mahal) ป้อมอัครา (Akra Fort) และฟาเตปูร์สิกรี (Fatehpur Sikri) ซึ่งทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆไปครบทุกที่

สถานที่ท่องเที่ยวในอัคราที่ต้องห้ามพลาด !!

นี่คือครั้งแรกของการมาเยือนเมืองนี้ซึ่งเราทำการบ้านมาค่อนข้างหนัก เพราะทุกที่ดูน่าสนใจ + เวลาที่กระชั้นชิด และนี่คือเมืองที่เราทั้งประทับใจและเอามือกุมหัวอยู่หลายครั้ง มาเราสู้!!!!!

Taj Mahal อนุสรณ์แห่งรักอันมั่นคงระหว่างกษัตรย์ชาห์ ชหาน ที่มีต่อมเหสี ใช้เวลาสร้างกว่า 22 ปี แรงงานคนกว่า 20,000 คน กินพื้นที่ประมาณ 107 ไร่ ใช้ทั้งวัสดุหินอ่อน อัญมณีและเงินในท้องพระคลังจำนวนมากมาย จนทำให้ลูกชายเกิดความไม่พอใจและจับไปคุมขังไว้ที่ Agra Fort อยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคต ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นแลนด์มาร์คของเมืองที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมได้ถึงปีละหลายล้านคน และแน่นอนว่าเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

ยอมรับตรงๆว่ามันสวยมาก อลังมาก และคนเยอะมากเช่นกัน เรามาถึงตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง ผ่านจุดตรวจต่างๆก็รีบวิ่งเข้ามาด้านใน ท้องฟ้าสีนวลๆตัดกับมัสยิดสีขาวขนาดใหญ่บวกกับอากาศเย็นๆยามเช้า เรียกว่ามีเสน่ห์สุดๆ ไม่น่าเชื่อว่าหลายร้อยปีที่แล้วมนุษย์สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้ถึงขนาดนี้

มองกลับมาจะเห็นทางเข้าตรงสีแดงๆนั่นแหละ ผู้คนทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่องเพียงไม่กี่นาที เราชอบความไฮแฟชั่นของเค้านะ มาทุกสี เขียวเหลือง แดง 555

ด้วยพื้นที่ขนาดมหึมาทำเอาเดินเหนื่อยเหมือนกันนะ ข้อแนะนำการเข้ามาเยี่ยมชมคือให้เอาของติดตัวมาให้น้อยที่สุด พวกของกิน เครื่องสำอางค์ ขาตั้งกล้องต่างๆนี่ไม่ได้เลยต้องฝากไว้ตรงทางเข้า ที่นี่ค่อนข้างเคร่ง

เอาจริงที่นี่ถ่ายรูปสวยทุกมุมใครมีเวลาสามารถขึ้นไปบนทัชมาฮาลเพื่อดูหลุมฝังศพของจักรพรรดิชาห์จาฮานและมุมตัชได้ด้วย

มุมนี้มองเห็นแม่น้ำยมุนาชัดเจน มันคือจุดที่เราจะไปล่องเรือไม้ยามเย็นนี่ละ

เปิด : 6.00 – 18.00 น. **ปิดทุกวันศุกร์

ค่าเข้า : พาสปอร์ตไทยจะได้ส่วนลดเหลือคนละ 735 รูปี สามารถซื้อหน้าทางเข้าหรือออนไลน์ก็ได้

Agra Fort หรือ Red Fort ป้อมปราการด่านหน้าสีแดงที่คอยปกป้องเมืองในสมัยก่อน มีขนาดใหญ่และสร้างจากหินทรายแดง เชื่อไหมว่าที่นี่ใช้เวลาการสร้างยาวนานกว่าทัชมาฮาลอีกนะ ยาวถึงสามยุคของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล! ด้านในจะมีพระตำหนักหินอ่อน Shish Mahal และหอคอยแปดเหลี่ยม Musamman Burj ที่มองเห็นทัชมาฮาลได้ฝั่งตรงข้ามและเป็นสถานที่สุดท้ายของกษัตรย์ชาห์ ชหานเฝ้ามองอนุสรณ์แห่งความรักอยู่ทุกวันจนสิ้นพระชนม์ ฟังแล้วก็แอบเศร้าหน่อยๆเนอะ

ทุกมุมดูแข็งแรง มั่นคง มีการแกะสลักและฉลุลวดลายตามกำแพงต่างๆ

เดินเข้าไปด้านในอาคารสีแดงจะเจอกับโซนยอดฮิต เป็นหน้าต่างที่สร้างทรงกำแพงๆหลายๆบาน ซึ่งทุกบานสามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้หมด

บริเวณท้องพระโรงและสวนองุ่นมีขนาดใหญ่มาก เชื่อว่าถ้าย้อนกลับไปในยุคนั้นที่นี่คงอลังการมากๆแน่นอน

ค่าเข้า : คนไทย (BIMSTEC) 35 รูปี

Fatehpur Sikri ที่นี่แหละสถานที่ที่เรายกให้เป็นนัมเบอร์วันแห่งการเกาหัว เมืองก่อนสถานที่นี่เคยฮิตมากในหมู่นักท่องเที่ยว แต่ช่วงหลังๆบริษัททัวร์ต่างๆได้ดึงสถานที่นี่ออกจากแพลนกันหมด นั่นอาจเป็นเพราะว่าการหลอกลวง ไกด์เถื่อน รวมถึงการจู่โจมเข้าหานักท่องเที่ยวแบบไม่ค่อยน่ารักซักเท่าไหร่

อย่างเราเจอตั้งแต่ขาเข้าคือคนขับรถที่เราเหมามาจอดให้เราลงหน้าตลาดและเรียกรถตุ๊กให้ย้ำแล้วย้ำอีกว่าขากลับก็ให้ราคา 50 รูปีพอนะถ้าเกินกว่านี้ปฎิเสธไปเราก็โอเคและขึ้นรถกันมา 4 คน พอถึงกลางทางมีรถมอเตอร์ไซต์มาสั่งให้หยุดรถและบอกว่าเราต้องจ่ายเงินค่าขึ้นไปด้านบนคนละ 500 รูปี ซึ่งทางเราไม่ยอมได้โทรหาคนขับรถให้คุยเป็นภาษาอินเดีย วุ่นวายอยู่ซักพักเค้าก็ปล่อยให้เราไป นี่คือเรื่องพีคเรื่องแรกของที่นี่นะ

พีคสองคือลงจากตุ๊กๆต้องเดินเท้าขึ้นไปอีก 5 นาที ซึ่งระหว่างทางก็จะมีไกด์เด็กน้อยมาเสนอตัวนำทาง เราปฎิเสธไปว่าไม่เป็นไร เราไม่มีเงิน เด็กน้อยพูดกลับมาว่า “์No Happy No Money” โอ้โห! พีค

จุดแรกที่เราแวะคือ ประตูชัยบูลันด์ ดาร์วาซา (Buland Darwaza) มีขนาดใหญ่โตถึง 54 เมตร บางคนบอกว่ามันคือประตูชัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกละ

ของจริงมีขนาดใหญ่มากจริงๆเมื่อเทียบกับไซต์คนแถมบริเวณบันไดทางขึ้นเต็มไปด้วยฝูงแพะนอนอาบแดด เป็นภาพที่ดูแปลกตาและน่ารักดี

เข้ามาด้านในจะเจอกับลานโล่งๆและทางเดินในร่มแบบวงกลมคือสามารถวนมายังจุดเดิมได้ จริงๆที่นี่ไม่มีค่าเข้านะ แต่ตอนเราไปแอบโดนโกงละหนึ่งคือมีคนหน้าประตูบอกว่าใส่รองเท้าเข้าไปไม่ได้นะ ต้องฝากไว้ด้านนอก 100 รูปี อะใช่ค่ะใส่รองเท้าไม่ได้ก็จริงแต่มันถือเข้าไปได้โว้ยยยย! และระหว่างที่เดินถ่ายรูปอยู่นั้นก็จะมีบรรดาไกด์มาเดินประกบนับสิบคนทำให้รู้สึกอึดอัดไปหมด

ตรงนี้คือทางออกด้านหลังเชื่อมไปยัง Fatehpur Sikri ที่เป็นส่วนของราชวัง และใช่ค่ะทางเราต้องย้อนกลับไปเอารองเท้าเพื่อหิ้วกลับออกมาทางนี้อีกที เฮ้อ!

เดินมาตามทางเรื่อยๆจะเจอจุดขายตั๋วราคา 40 รูปี

ฝั่งนี่ค่อนข้างเงียบสงบกว่า ถ้าผ่านไกด์ด้านหน้ามาได้ก็สามารถเดินเล่นได้อย่างสบายใจละ มีทั้งส่วนท้องพระโรง แท่นกลางน้ำ และอื่นๆให้เดินดูเยอะ แต่วันที่เราไปแดดร้อนมากเลยไม่ค่อยได้ใช้เวลาที่นี่มากเท่าไหร่

ค่าเข้า : คนไทย (BIMSTEC) 50 รูปี

Itmad-ud-Daula – เบบี้ทัชมาฮาล สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาว ในลักษณะรูปทรงคล้ายทัชมาฮาลแต่เล็กกว่าที่สำคัญคือสร้างก่อนทัชมาฮาลหลายปีเลยด้วย

ค่าเข้า : คนไทย (BIMSTEC) 20 รูปี ซื้อตั๋วออนไลน์ได้

Mehtab Bagh (Taj-Yamuna View Point) เป็นสวนวิวฝั่งตรงข้ามกับทัชมาฮาล คนน้อยเดินถ่ายรูปเล่นได้อย่างสบายใจ

ค่าเข้า : คนไทย (BIMSTEC) 20 รูปี

ล่องเรือด้านหลังทัชมาฮาล เราเองก็ไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกที่นี่ว่าอะไร แต่มันอยู่ด้านหลังริมแม่น้ำยมุนา มีเรือให้บริการอยู่แค่ลำเดียว แนะนำให้จองล่วงหน้า ช่วงเวลา 5-6 โมงเย็น คือช่วงที่แสงดีสุดๆ